ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เฉลย"

จาก Theory Wiki
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา
 
(ไม่แสดง 4 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน)
แถว 160: แถว 160:
 
เนื่องจาก x เป็นค่าใดๆ เราจึงสามารถสรุปได้ว่า <math>\forall x, [ x \in A \cap B \rightarrow x \in C \cap D ] </math> ฉะนั้น <math>A \cap B \subseteq C \cap D</math>
 
เนื่องจาก x เป็นค่าใดๆ เราจึงสามารถสรุปได้ว่า <math>\forall x, [ x \in A \cap B \rightarrow x \in C \cap D ] </math> ฉะนั้น <math>A \cap B \subseteq C \cap D</math>
  
== พิสูจน์ (โจทย์) ==
+
=== พิสูจน์ (โจทย์) ===
 
(Base Case) n มีค่าเท่ากับ 1 ในกรณีนี้เราได้ว่า <math>\bigcap_{i=1}^1 A_i = A \subseteq B = \bigcap_{i=1}^1 B_i \,</math>
 
(Base Case) n มีค่าเท่ากับ 1 ในกรณีนี้เราได้ว่า <math>\bigcap_{i=1}^1 A_i = A \subseteq B = \bigcap_{i=1}^1 B_i \,</math>
  
แถว 171: แถว 171:
  
 
ฉะนั้นเราจึงสรุปได้ว่าข้อความในโจทย์เป็นจริงสำหรับจำนวนเต็มบวก n ทุกค่า
 
ฉะนั้นเราจึงสรุปได้ว่าข้อความในโจทย์เป็นจริงสำหรับจำนวนเต็มบวก n ทุกค่า
 +
 +
== ข้อย่อย 8 ==
 +
(Base Case) n มีค่าเท่ากับ 1 และเราจะได้ว่า <math>1 \cdot 2^{1-1} = 1 = (1-1)2^1 + 1</math>
 +
 +
(Induction Case) ให้ n เป็นจำนวนเต็มที่มีค่ามากกว่า 0 และสมมติให้สมการในโจทย์เป็นจริง ได้ว่า
 +
 +
<table>
 +
<tr>
 +
<td align="right"><math>1 \cdot 2^0 + 2 \cdot 2^1 + \dotsb + (n+1) \cdot 2^n \,</math></td>
 +
<td align="center"><math>= \,</math></td>
 +
<td align="left"><math>(1 \cdot 2^0 + 2 \cdot 2^1 + \dotsb + n \cdot 2^{n-1}) + (n+1) \cdot 2^n  \,</math></td>
 +
</tr>
 +
<tr>
 +
<td align="right"></td>
 +
<td align="center"><math>= \,</math></td>
 +
<td align="left"><math>(n-1)2^n + 1 + (n+1) \cdot 2^n  \,</math></td>
 +
</tr>
 +
<tr>
 +
<td align="right"></td>
 +
<td align="center"><math>= \,</math></td>
 +
<td align="left"><math>(2n) \cdot 2^n + 1  \,</math></td>
 +
</tr>
 +
<tr>
 +
<td align="right"></td>
 +
<td align="center"><math>= \,</math></td>
 +
<td align="left"><math>n \cdot 2^{n+1} + 1  \,</math></td>
 +
</tr>
 +
</table>
 +
 +
ดังนั้นเราสรุปได้ว่าสมการเป็นจริงสำหรับจำนวนเต็มบวก n ทุกจำนวน
 +
 +
== ข้อ 9 ==
 +
(Base Case) n มีค่าเท่ากับ 1 และเราได้ว่า <math>4^{1+1} + 5^{2\cdot 1 - 1} = 16 + 5 = 21</math> ซึ่งหารด้วย 21 ลงตัว
 +
 +
(Induction Case) ให้ n เป็นจำนวนเต็มบวก และสมมติให้ <math>4^{n+1} + 5^{2n-1}</math> หารด้วย 21 ลงตัว
 +
 +
เราได้ว่า <math>4^{n+2} + 5^{2n+1} = 4 \cdot 4^{n+1} + 25 \cdot 5^{2n-1} = (25 - 21) 4^{n+1} + 25 \cdot 5^{2n-1} = 25 (4^{n+1} + 5^{2n-1}) + 21 \cdot 4^{n+1}</math>
 +
 +
จากสมมติฐาน เราได้ว่า 21 หาร <math>4^{n+1} + 5^{2n-1}</math> ลงตัว ดังนั้นมันจึงหาร <math>25(4^{n+1} + 5^{2n-1})</math> ลงตัว และเนื่องจาก 21 หาร <math>21 \cdot 4^{n+1}</math> ลงตัว เราจึงได้ว่า 21 หาร <math>25 (4^{n+1} + 5^{2n-1}) + 21 \cdot 4^{n+1} = 4^{n+2} + 5^{2n+1}</math>
 +
 +
ฉะนั้นเราจึงสามารถสรุปได้ว่า 21 หาร <math>4^{n+1} + 5^{2n-1}</math> ลงตัวสำหรับจำนวนเต็มบวก n ทุกจำนวน
 +
 +
== ข้อ 10 ==
 +
'''lemma:''' สำหรับจำนวนเต็มบวก n ใดๆ <math>2\sqrt{n+1} + \frac{1}{\sqrt{n+1}} > 2\sqrt{n+2}</math>
 +
 +
''พิสูจน์ (lemma):''  เราได้ว่า
 +
 +
<table cellpadding="5">
 +
<tr>
 +
<td align="right"><math>\sqrt{n+2} + \sqrt{n+1}</math></td>
 +
<td align="center"><math> > \,</math></td>
 +
<td align="left"><math>2\sqrt{n+1}</math></td>
 +
</tr>
 +
<tr>
 +
<td align="right"><math>(\sqrt{n+2} + \sqrt{n+1}) \frac{\sqrt{n+2} - \sqrt{n+1}}{\sqrt{n+2} - \sqrt{n+1}}</math></td>
 +
<td align="center"><math> > \,</math></td>
 +
<td align="left"><math>2\sqrt{n+1}</math></td>
 +
</tr>
 +
<tr>
 +
<td align="right"><math>\frac{1}{\sqrt{n+2} - \sqrt{n+1}}</math></td>
 +
<td align="center"><math> > \,</math></td>
 +
<td align="left"><math>2\sqrt{n+1}</math></td>
 +
</tr>
 +
<tr>
 +
<td align="right"><math>\frac{1}{\sqrt{n+1}}</math></td>
 +
<td align="center"><math> > \,</math></td>
 +
<td align="left"><math>2\sqrt{n+2} - 2\sqrt{n+1}</math></td>
 +
</tr>
 +
<tr>
 +
<td align="right"><math>2\sqrt{n+1} + \frac{1}{\sqrt{n+1}}</math></td>
 +
<td align="center"><math> > \,</math></td>
 +
<td align="left"><math>2\sqrt{n+2}</math></td>
 +
</tr>
 +
</table>
 +
 +
 +
=== พิสูจน์ (โจทย์) ===
 +
(Base Case) n มีค่าเท่ากับ 1 เราได้ว่า <math>1 > 0.82842712474619029\dotsb =  2(\sqrt{1+1} - 1)\,</math>
 +
 +
(Induction Case) ให้ n เป็นจำนวนเต็มบวก และสมมติให้อสมการในโจทย์เป็นจริง เราได้ว่า
 +
 +
<math>1 + \frac{1}{\sqrt{2}} + \dotsb + \frac{1}{\sqrt{n+1}} > 2(\sqrt{n+1} - 1) + \frac{1}{\sqrt{n+1}} = 2\sqrt{n+1} + \frac{1}{\sqrt{n+1}} - 2 > 2\sqrt{n+2} - 2 = 2(\sqrt{n+2} - 1)</math>
 +
 +
ดังนั้นเราสามารถสรุปได้ว่าอสมการในโจทย์เป็นจริงสำหรับจำนวนเต็มบวก n ทุกตัว

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 20:06, 9 กรกฎาคม 2552

ข้อย่อย 1

สูตรคือ


base case: ให้

เป็นจริง

inductive step: inductive hypothesis คือสมมติให้ p(n) คือ เป็นจริง ต้องการพิสูจน์ว่า p(n+1) คือ เป็นจริงด้วย

จากที่สมมติไว้คือ
บวกทั้งสองข้างของสมการด้วย
จะได้
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า

ข้อย่อย 2

สูตรคือ

base case: ให้

เป็นจริง

inductive step: inductive hypothesis คือสมมติให้ p(n)คือ เป็นจริง ต้องการพิสูจน์ว่า เป็นจริงด้วย

จากที่สมมติไว้คือ
บวก ทั้งสองข้างของสมการ
จะได้
ดังนั้นเราจึงสรุปได้ว่า เป็นจริง

ข้อย่อย 3

(Base Case) เนื่องจาก เราได้ว่า

(Induction Case) สมมติให้ n เป็นจำนวนเต็มที่มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 0 และสมมติให้สมการในโจทย์เป็นจริง เราได้ว่า

ฉะนั้นเราจึงสามารถสรุปได้ว่าสมการในโจทย์เป็นจริงสำหรับจำนวนเต็ม n ที่ไม่เป็นลบทุกจำนวน

ข้อย่อย 4

base case: คือ n=5 แทนค่าจะได้

เป็นจริง

inductive step: inductive hypothesis คือ สมมติให้ p(n) คือ เป็นจริง ต้องการแสดงว่า เป็นจริงด้วย

จากที่สมมติ
คูณ 2 ทั้งสองข้างของสมการจะได้
เนื่องจาก n>4
ดังนั้นเราจึงสรุปได้ว่า เป็นจริง เมื่อ n เป็นจำนวนเต็มบวกที่มีค่ามากกว่า 4

ข้อย่อย 5

(Base Case) n มีค่าเท่ากับ 2 และเราได้ว่า

(Induction Case) สมมติให้ n เป็นจำนวนเต็มบวกที่มีค่ามากกว่า 2 และให้สมการในโจทย์เป็นจริง เราได้ว่า

ดังนั้นเราสามารถสรุปได้ว่าสมการในโจทย์เป็นจริงสำหรับจำนวนจริง ทุกจำนวน

ข้อย่อย 6

(Base Case) n มีค่าเท่ากับ 0 และเราได้ว่า ซึ่งหารด้วย 6 ได้ลงตัว

(Induction Case) สมมติว่า n เป็นจำนวนเต็มที่ไม่เป็นลบ และสมมติให้ หารด้วย 6 ลงตัว

พิจารณาค่า

เราได้ว่า 6 หาร ลงตัวเนื่องจาก 3 หาร ลงตัว นอกจากนี้ 2 ยังหาร ลงตัวเนื่องจากในค่า และ ลงตัว จะต้องมีสักตัวที่เป็นจำนวนคู่

เนื่องจาก 6 หารทั้ง และ ลงตัว เราจึงได้ว่า 6 หาร ลงตัวด้วย

ดังนั้นเราจึงสรุปได้ว่า 6 หาร ลงตัวสำหรับจำนวนเต็ม n ที่ไม่เป็นลบทุกจำนวน

ข้อย่อย 7

ก่อนเราจะทำการพิสูจน์ข้อความในโจทย์ เราจะทำการพิสูจน์ lemma ต่อไปนี้

lemma: ให้ , , และ เป็นเซตใดๆ ที่ และ แล้ว

พิสูจน์ (lemma): ให้ x เป็นค่าใดๆ สมมติให้ เราได้ว่า และ

เนื่องจาก และ เราได้ว่า และ ด้วย ดังนั้น

เนื่องจาก x เป็นค่าใดๆ เราจึงสามารถสรุปได้ว่า ฉะนั้น

พิสูจน์ (โจทย์)

(Base Case) n มีค่าเท่ากับ 1 ในกรณีนี้เราได้ว่า

(Induction Case) ให้ n เป็นจำนวนเต็มบวก และสมมติให้ข้อความที่โจทย์ต้องการพิสูจน์เป็นจริง

เราได้ว่า และ

โจทย์กำหนดว่า และจาำกสมมติฐานเราได้ว่า ฉะนั้นด้วย lemma เราได้ว่า

ฉะนั้นเราจึงสรุปได้ว่าข้อความในโจทย์เป็นจริงสำหรับจำนวนเต็มบวก n ทุกค่า

ข้อย่อย 8

(Base Case) n มีค่าเท่ากับ 1 และเราจะได้ว่า

(Induction Case) ให้ n เป็นจำนวนเต็มที่มีค่ามากกว่า 0 และสมมติให้สมการในโจทย์เป็นจริง ได้ว่า

ดังนั้นเราสรุปได้ว่าสมการเป็นจริงสำหรับจำนวนเต็มบวก n ทุกจำนวน

ข้อ 9

(Base Case) n มีค่าเท่ากับ 1 และเราได้ว่า ซึ่งหารด้วย 21 ลงตัว

(Induction Case) ให้ n เป็นจำนวนเต็มบวก และสมมติให้ หารด้วย 21 ลงตัว

เราได้ว่า

จากสมมติฐาน เราได้ว่า 21 หาร ลงตัว ดังนั้นมันจึงหาร ลงตัว และเนื่องจาก 21 หาร ลงตัว เราจึงได้ว่า 21 หาร

ฉะนั้นเราจึงสามารถสรุปได้ว่า 21 หาร ลงตัวสำหรับจำนวนเต็มบวก n ทุกจำนวน

ข้อ 10

lemma: สำหรับจำนวนเต็มบวก n ใดๆ

พิสูจน์ (lemma): เราได้ว่า


พิสูจน์ (โจทย์)

(Base Case) n มีค่าเท่ากับ 1 เราได้ว่า

(Induction Case) ให้ n เป็นจำนวนเต็มบวก และสมมติให้อสมการในโจทย์เป็นจริง เราได้ว่า

ดังนั้นเราสามารถสรุปได้ว่าอสมการในโจทย์เป็นจริงสำหรับจำนวนเต็มบวก n ทุกตัว