ผลต่างระหว่างรุ่นของ "Baltic2014"
(ไม่แสดง 3 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน) | |||
แถว 60: | แถว 60: | ||
'''ตัวอย่าง 1''' | '''ตัวอย่าง 1''' | ||
− | ''input'' | + | ''-- input --'' |
+ | |||
7 | 7 | ||
+ | |||
ABXCABC | ABXCABC | ||
− | ''output'' | + | ''-- output --'' |
+ | |||
ABC | ABC | ||
แถว 70: | แถว 73: | ||
'''ตัวอย่าง 2''' | '''ตัวอย่าง 2''' | ||
− | ''input'' | + | ''-- input --'' |
6 | 6 | ||
+ | |||
ABCDEF | ABCDEF | ||
− | ''output'' | + | ''-- output --'' |
NOT POSSIBLE | NOT POSSIBLE | ||
แถว 82: | แถว 86: | ||
'''ตัวอย่าง 3''' | '''ตัวอย่าง 3''' | ||
− | ''input'' | + | ''-- input --'' |
9 | 9 | ||
+ | |||
ABABABABA | ABABABABA | ||
− | ''output'' | + | ''-- output --'' |
NOT UNIQUE | NOT UNIQUE | ||
แถว 95: | แถว 100: | ||
35 คะแนน: 2 <= N <= 2001 | 35 คะแนน: 2 <= N <= 2001 | ||
+ | |||
65 คะแนน: 2 <= N <= 2000001 | 65 คะแนน: 2 <= N <= 2000001 | ||
== Day1: Sequence == | == Day1: Sequence == | ||
+ | |||
+ | ที่มา: [http://www.boi2014.lmio.lt/tasks/sequence-en.pdf](http://www.boi2014.lmio.lt/tasks/sequence-en.pdf) | ||
+ | |||
+ | อดัมเขียนลำดับของจำนวนเต็ม K จำนวนที่ติดกันที่เริ่มต้นด้วยจำนวน N ลงบนกระดานดำ ่แต่ในขณะที่เขาไม่อยู่นั้น บิลลี่ได้เข้ามาในห้องและลบตัวเลขออกโดยเหลือไว้เพียงเลขโดดหนึ่งหลักของแต่ละจำนวนเท่านั้น ดังนั้นจะเหลือเพียงลำดับของตัวเลขโดด K ตัวเท่านั้น | ||
+ | |||
+ | |||
+ | '''หน้าที่ของคุณ''' | ||
+ | |||
+ | จากลำดับของตัวเลขโดดที่เหลืออยู่บนกระดานดำ ให้คุณหาจำนวนที่เล็กที่สุด N ที่เป็นค่าเริ่มต้นของลำดับทั้งหมดบนกระดาน | ||
+ | |||
+ | |||
+ | '''ข้อมูลนำเข้า''' | ||
+ | |||
+ | บรรทัดแรก ประกอบด้วยตัวเลขจำนวนเต็มหนึ่งจำนวน K ที่แสดงถึงความยาวของลำดับ | ||
+ | |||
+ | บรรทัดที่สอง ประกอบด้วยจำนวนเต็มที่แสดงตัวเลขโดดทั้งหมด K ตัว B1, B2, ..., Bk ที่บิลลี่เหลือไว้ให้ (0 <= Bi <= 9) ตามลำดับของตัวเลขที่ปรากฎอยู่บนกระดาน | ||
+ | |||
+ | |||
+ | '''ข้อมูลส่งออก''' | ||
+ | |||
+ | ให้แสดงคำตอบเพียงหนึ่งบรรทัด ที่ประกอบด้วยจำนวนหนึ่งจำนวน N ที่เป็นค่าเริ่มต้นของลำดับ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | '''ตัวอย่าง''' | ||
+ | |||
+ | ''-- input --'' | ||
+ | |||
+ | 6 | ||
+ | |||
+ | 7 8 9 5 1 2 | ||
+ | |||
+ | ''-- output --'' | ||
+ | |||
+ | 47 | ||
+ | |||
+ | ''-- อธิบาย --'' | ||
+ | |||
+ | เมื่อ N = 47 หมายถึงลำดับของตัวเลขที่อดัมเขียนไว้คือ 47 48 49 50 51 52 ซึ่งประกอบด้วยตัวเลขทั้งหมดที่บิลลี่เหลือไว้ให้ และไม่มีจำนวนที่เล็กกว่า 47 ที่ทำให้เงื่อนไขเป็นจริงได้ ดังนั้นคำตอบจึงเป็น 47 | ||
+ | |||
+ | |||
+ | '''การให้คะแนน''' | ||
+ | |||
+ | 9 คะแนน: 1 <= K <= 1,000 และ คำตอบที่ถูกต้องมีค่าไม่เกิน 1000 | ||
+ | |||
+ | 33 คะแนน: 1 <= K <= 1,000 | ||
+ | |||
+ | 25 คะแนน: 1 <= K <= 100,000 และ เลขโดดทุกจำนวนมีค่าเท่ากันหมด | ||
+ | |||
+ | 33 คะแนน: 1 <= K <= 100,000 | ||
+ | |||
+ | |||
+ | '''เงื่อนไข''' | ||
+ | |||
+ | เวลาจำกัด 1 วินาที | ||
+ | |||
+ | หน่วยความจำจำกัด 256 MB |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 07:54, 23 มิถุนายน 2557
Source: Baltic Olympiad in Informatics 2014
Day1: Cop and Robber
ที่มา: [1](http://www.boi2014.lmio.lt/tasks/coprobber-en.pdf)
ณ เมืองไบท์มอร์ ระดับของอาชญากรรมได้เพิ่มขึ้นมากจนเป็นจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ ท่ามกลางการก่ออาชญากรรมประเภทเบานั้นการขโมยของได้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวี่วัน และเมื่อมีการขโมยเกิดขึ้นนั้นก็มักจะลงเอยตด้วยการที่ตำรวจสายตรวจรายหนึ่งที่เดินตรวจตราอยู่นั้นเป็นผู้ไล่ตามจับหัวขโมยไปในตรอกซอยเล็กๆ ที่เชื่อมระหว่างหัวมุมถนน (เพื่อความงายขออ้างอิงด้วยคำว่าง หัวมุมถนน) แต่โชคไม่ดีเสียเลยที่บ่อยครั้ง หัวขโมยสามารถหลบหนีจากการติดตามของตำรวจได้ เพราะว่าหัวขโมยรู้จักเส้นทางในตัวเมืองดีกว่าตำรวจ
สถานีตำรวจแห่งเมืองไบท์มอร์ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อลดปริมาณการเกิดอาชญากรรมภยในเมือง แนวคิดหนึ่งที่จะนำมาลดปัญหาอาชญากรรมนี้คือการใช้ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการติดตามจับหัวขโมย ในการนี้สถานีตำรวจแห่งเมืองไบท์มอร์ได้สร้างแผนที่ตัวเมืองอย่างชัดเจนขึ้นเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พวกเขาต้องการซอฟตร์แวร์ที่ใช้ในกำหนดกลยุทธในการติดตามหัวขโมย
ในการติดตามหัวขโมยโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งนั้นจะมีรูปแบบเป็นลำดับขั้นตอนดังนี้: 1. ตำรวจเลือกหัวมุมถนนหนึ่งที่จะใช้เดินสำรวจ 2. ขโมยเลือกหัวมุมถนนหนึ่งที่จะทำการก่ออาชญากรรม (ทั้งนี้ขโมยรู้ว่าตำรวจอยู่ที่ใด) และตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะสมมติว่าทั้งตำรวจและขโมยรู้ตำแหน่งของอีกฝ่ายหนึ่งตลอดเวลา 3. ตำรวจสามารถเดินไปยังหัวมุมถนนที่ติดกัน (นับจากหัวมุมถนนปัจจุบันที่เขาอยู่โดยผ่านทางเดินเส้นหนึ่ง) หรือสามารถเลือกที่จะหยุดรอ (คือเลือกที่จะไม่เดินได้) 4. ขโมยจะเดินไปยังหัวมุมถนนที่ติดกันนับจากตำแหน่งที่เขาอยู่ แต่ทว่าแตกต่างจากตำรวจคือ หัวขโมยไม่สามารถหยุดรอได้ เนื่องด้วยสัญชาตญาณของขโมยจึงทำให้เค้าต้องย้ายตำแหน่งตลอดเวลา 5. ตำรวจและขโมยจะเดินสลับกันคนละหนึ่งครั้ง (เริ่มต้นที่ตำรวจ) จนกว่าหนึ่งในเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น:
- เกิดสภาพการเดินซ้ำ (สภาพการเดินจะนิยามจากตำแหน่งของทั้งสองคนและผู้ที่จะเดินรายต่อไป) ในกรณีนี้นี้ขโมยจะสามารถหลบหนีการจับกุมได้อย่างแน่นอน ดังนั้นจะถือว่าขโมยสามารถหลบหนีสำเร็จ
- ตำรวจและขโมยพบกันที่หัวมุมถนนแห่งหนึ่งภายหลังจากการเดินของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ได้ ในกรณีนี้จะหมายถึงตำรวจสามารถจับขโมยได้สำเร็จ
หน้าที่ของคุณ
ให้คุณเขียนโปรแกรมที่รับแผนที่ของเมืองแล้วหาว่า ตำรวจจะจับหัวขโมยได้สำเร็จหรือไม่ ถ้าสำเร็จให้แสดงการเดินเพื่อให้ตำรวจสามารถจับหัวขโมยให้ด้วย
โปรแกรมของคุณต้องสมมติว่าขโมยจะเดินด้วยวิธีการที่ดีที่สุด
Implementation
คุณต้องเขียนสองฟังก์ชันคือ: start(N,A) เพื่อให้ในการรับแผนที่เริ่มต้น nextMove(R) เพื่อใช้ในการรับอินพุตว่าขโมยจะเดินไปที่ใด
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาอ่านต่อที่: [Cob and Robber, BOI2014](http://www.boi2014.lmio.lt/tasks/coprobber-en.pdf)
Day1: Three Friends
ที่มา: [2](http://www.boi2014.lmio.lt/tasks/friends-en.pdf)
เพื่อนสามคนเล่นเกมหนึ่งดังนี้ เพื่อนคนที่หนึ่งเลือกสายอักษร S ขึ้นมาหนึ่งสาย ต่อมาเพื่อนคนที่สองจะสร้างสายอักษรใหม่ T ขึ้นจากการเอาสายอักษร S สองชุดมาต่อกัน และท้ายที่สุดเพื่อนคนที่สามจะเติมอักษรเข้าไปหนึ่งตัวไปในสายอักษร T โดยอาจจะเพิ่มที่ตำแหน่งเริ่มต้น, สิ้นสุด, หรือตำแหน่งใดๆ ในสายอักษร T ก็ได้ เพื่อสร้างเป็นสายอักษร U
หน้าที่ของคุณ
รับสายอักษร U และให้คุณหาช่วยสร้างสายอักษรเริ่มต้น S
ข้อมูลนำเข้า
บรรทัดแรก ประกอบด้วยจำนวนหนึ่งจำนวน N ที่แสดงความยาวของสายอักษร U, ข้อมูลสายอักษร U จะระบุในบรรทัดที่สอง ซึ่งจะประกอบด้วยอักษรตัวใหญ่ในภาษาอังกฤษ (A,B,C,..,Z) ทั้งสิ้น N อักษร
ข้อมูลส่งออก
ให้โปรแกรมของคุณแสดงสายอักษรเริ่มต้น S ยกเว้นสองกรณีด้านล่าง:
1. ถ้าสายอักษร U ไม่สามารถถูกสร้างขึ้นโดยใช้กระบวนการสร้างด้านบน ให้โปรแกรมตอบว่า NOT POSSIBLE
2. ถ้าสายอักษรเริ่มต้น S เป็นไปได้มากกว่า 1 รูปแบบ ให้โปรแกรมตอบว่า NOT UNIQUE
ตัวอย่าง 1
-- input --
7
ABXCABC
-- output --
ABC
ตัวอย่าง 2
-- input --
6
ABCDEF
-- output --
NOT POSSIBLE
ตัวอย่าง 3
-- input --
9
ABABABABA
-- output --
NOT UNIQUE
เกณฑ์การให้คะแนน
35 คะแนน: 2 <= N <= 2001
65 คะแนน: 2 <= N <= 2000001
Day1: Sequence
ที่มา: [3](http://www.boi2014.lmio.lt/tasks/sequence-en.pdf)
อดัมเขียนลำดับของจำนวนเต็ม K จำนวนที่ติดกันที่เริ่มต้นด้วยจำนวน N ลงบนกระดานดำ ่แต่ในขณะที่เขาไม่อยู่นั้น บิลลี่ได้เข้ามาในห้องและลบตัวเลขออกโดยเหลือไว้เพียงเลขโดดหนึ่งหลักของแต่ละจำนวนเท่านั้น ดังนั้นจะเหลือเพียงลำดับของตัวเลขโดด K ตัวเท่านั้น
หน้าที่ของคุณ
จากลำดับของตัวเลขโดดที่เหลืออยู่บนกระดานดำ ให้คุณหาจำนวนที่เล็กที่สุด N ที่เป็นค่าเริ่มต้นของลำดับทั้งหมดบนกระดาน
ข้อมูลนำเข้า
บรรทัดแรก ประกอบด้วยตัวเลขจำนวนเต็มหนึ่งจำนวน K ที่แสดงถึงความยาวของลำดับ
บรรทัดที่สอง ประกอบด้วยจำนวนเต็มที่แสดงตัวเลขโดดทั้งหมด K ตัว B1, B2, ..., Bk ที่บิลลี่เหลือไว้ให้ (0 <= Bi <= 9) ตามลำดับของตัวเลขที่ปรากฎอยู่บนกระดาน
ข้อมูลส่งออก
ให้แสดงคำตอบเพียงหนึ่งบรรทัด ที่ประกอบด้วยจำนวนหนึ่งจำนวน N ที่เป็นค่าเริ่มต้นของลำดับ
ตัวอย่าง
-- input --
6
7 8 9 5 1 2
-- output --
47
-- อธิบาย --
เมื่อ N = 47 หมายถึงลำดับของตัวเลขที่อดัมเขียนไว้คือ 47 48 49 50 51 52 ซึ่งประกอบด้วยตัวเลขทั้งหมดที่บิลลี่เหลือไว้ให้ และไม่มีจำนวนที่เล็กกว่า 47 ที่ทำให้เงื่อนไขเป็นจริงได้ ดังนั้นคำตอบจึงเป็น 47
การให้คะแนน
9 คะแนน: 1 <= K <= 1,000 และ คำตอบที่ถูกต้องมีค่าไม่เกิน 1000
33 คะแนน: 1 <= K <= 1,000
25 คะแนน: 1 <= K <= 100,000 และ เลขโดดทุกจำนวนมีค่าเท่ากันหมด
33 คะแนน: 1 <= K <= 100,000
เงื่อนไข
เวลาจำกัด 1 วินาที
หน่วยความจำจำกัด 256 MB