ผลต่างระหว่างรุ่นของ "418531 ภาคต้น 2552/โจทย์ปัญหาการพิสูจน์ I/เฉลยข้อ 3"

จาก Theory Wiki
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา
 
(ไม่แสดง 11 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน)
แถว 1: แถว 1:
 
== ข้อย่อย 1 ==
 
== ข้อย่อย 1 ==
.วัฒนา
+
จากที่ <math> a,b </math> เป็นจำนวนจริง สมมติให้ <math> a<b<0 </math> ต้องการพิสูจน์ว่า <math> a^2 > b^2 </math> เป็นจริงด้วย
 +
:จากที่สมมติให้ <math> a< b </math> เป็นอสมการที่ 1
 +
:คูณด้วย a ทั้งสองข้างของอสมการที่ 1 จะได้ <math> a^2 > a.b </math> เนื่องจาก <math> a <0 </math>
 +
:คูณด้วย b ทั้งสองข้างของอสมการที่ 1 จะได้ <math> a.b > b^2 </math> เนื่องจาก <math> b <0 </math>
 +
:ดังนั้นจะได้ว่า <math> a^2 > a.b > b^2 </math> เป็นจริง
 +
:เราสามารถสรุปได้ว่า เมื่อ <math> a,b </math> เป็นจำนวนจริง ถ้า <math> a<b<0 </math> แล้ว <math> a^2 > b^2 </math>
  
 
== ข้อย่อย 2 ==
 
== ข้อย่อย 2 ==
.วัฒนา
+
ให้ <math> a </math> เป็นจำนวนจริง สมมติให้ <math> a^3 > a </math> เป็นจริง ต้องการพิสูจน์ว่า <math> a^5 > a </math> เป็นจริง
 +
:จาก <math> a^3 > a </math> ให้เป็นอสมการที่ 1
 +
:จะได้ <math> a.a^2 > a </math>
 +
:ดังนั้น <math> a^2 > 1 </math> ให้เป็นอสมการที่ 2
 +
:จากอสมการ 1 คูณด้วย <math> a^2 </math> ทั้งสองข้าง
 +
:จะได้ <math> a^3.a^2 > a.a^2 </math> เนื่องจากอสมการ 2
 +
:จะได้ <math> a^5 > a^3 </math> ให้เป็นอสมการที่ 3
 +
:จากอสมการที่ 1 และ 3 จะได้  <math> a^5 > a^3 > a </math>
 +
:ดังนั้นเราสามารถสรุปได้ว่าเมื่อ <math> a </math> เป็นจำนวนจริง ถ้า <math> a^3 > a </math> แล้ว <math> a^5 > a </math>
  
 
== ข้อย่อย 3 ==
 
== ข้อย่อย 3 ==
อ.วัฒนา
+
เมื่อให้ <math> a,b </math> เป็นจำนวนจริง ต้องการแสดงว่าถ้า <math> a<b </math> แล้ว <math>\frac{a+b}{2} < b</math> เป็นจริง
 +
:สมมติให้ <math> a < b </math> เป็นอสมการที่ 1
 +
:บวก <math> b </math> ทั้งสองข้างของอสมการ 1
 +
:จะได้ <math> a+b < b+b </math> ให้เป็นอสมการที่ 2
 +
:หาร 2 ทั้งสองข้างของอสมการที่ 2 จะได้
 +
:<math>\frac{a+b}{2} < \frac{b+b}{2}=b</math>
 +
:ดังนั้นเราสามารถสรุปได้ว่าเมื่อ <math> a,b </math> เป็นจำนวนจริง ถ้า <math> a<b </math> แล้ว <math>\frac{a+b}{2} < b</math>
  
 
== ข้อย่อย 4 ==
 
== ข้อย่อย 4 ==
แถว 20: แถว 39:
  
 
== ข้อย่อย 5 ==
 
== ข้อย่อย 5 ==
อ.วัฒนา
+
จากโจทย์กำหนดให้ <math> A-B \subseteq C \cap D, x \in A</math> เป็นจริง ต้องการแสดงว่า ถ้า <math> x \notin D </math> แล้ว <math> x \in B </math> จะทำการพิสูจน์โดยแสดงว่า ถ้า <math> x \notin B </math>  แล้ว <math> x \in D </math> แทน
 +
:สมติให้<math> x \notin B </math> เป็นจริง จาก <math> A-B \subseteq C \cap D </math> หมายความว่า <math> [(x \in A) \wedge (x \notin B)] \rightarrow [(x \in C) \wedge (x \in D)] </math> และจากที่รู้ว่า  <math> x \in A, x \notin B </math> จริงทั้งคู่ จะได้ว่า <math> x \in C, x \in D </math> เป็นจริงด้วย
 +
:ดังนั้นเราจึงสรุปได้ว่า เมื่อ <math> A-B \subseteq C \cap D, x \in A</math> ถ้า <math> x \notin D </math> แล้ว <math> x \in B </math>

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 07:58, 29 มิถุนายน 2552

ข้อย่อย 1

จากที่ เป็นจำนวนจริง สมมติให้ ต้องการพิสูจน์ว่า เป็นจริงด้วย

จากที่สมมติให้ เป็นอสมการที่ 1
คูณด้วย a ทั้งสองข้างของอสมการที่ 1 จะได้ เนื่องจาก
คูณด้วย b ทั้งสองข้างของอสมการที่ 1 จะได้ เนื่องจาก
ดังนั้นจะได้ว่า เป็นจริง
เราสามารถสรุปได้ว่า เมื่อ เป็นจำนวนจริง ถ้า แล้ว

ข้อย่อย 2

ให้ เป็นจำนวนจริง สมมติให้ เป็นจริง ต้องการพิสูจน์ว่า เป็นจริง

จาก ให้เป็นอสมการที่ 1
จะได้
ดังนั้น ให้เป็นอสมการที่ 2
จากอสมการ 1 คูณด้วย ทั้งสองข้าง
จะได้ เนื่องจากอสมการ 2
จะได้ ให้เป็นอสมการที่ 3
จากอสมการที่ 1 และ 3 จะได้
ดังนั้นเราสามารถสรุปได้ว่าเมื่อ เป็นจำนวนจริง ถ้า แล้ว

ข้อย่อย 3

เมื่อให้ เป็นจำนวนจริง ต้องการแสดงว่าถ้า แล้ว เป็นจริง

สมมติให้ เป็นอสมการที่ 1
บวก ทั้งสองข้างของอสมการ 1
จะได้ ให้เป็นอสมการที่ 2
หาร 2 ทั้งสองข้างของอสมการที่ 2 จะได้
ดังนั้นเราสามารถสรุปได้ว่าเมื่อ เป็นจำนวนจริง ถ้า แล้ว

ข้อย่อย 4

สมมติว่า

เนื่องจาก ดังนั้น

เนื่องจาก และ ดังนั้น

ดังนั้น

ฉะนั้นเราจึงสามารถสรุปได้ว่า ถ้า แล้ว

ข้อย่อย 5

จากโจทย์กำหนดให้ เป็นจริง ต้องการแสดงว่า ถ้า แล้ว จะทำการพิสูจน์โดยแสดงว่า ถ้า แล้ว แทน

สมติให้ เป็นจริง จาก หมายความว่า และจากที่รู้ว่า จริงทั้งคู่ จะได้ว่า เป็นจริงด้วย
ดังนั้นเราจึงสรุปได้ว่า เมื่อ ถ้า แล้ว