|
|
แถว 46: |
แถว 46: |
| {{จบบทพิสูจน์}} | | {{จบบทพิสูจน์}} |
| | | |
− | และเราจะแสดงให้เห็นว่า | + | และเราจะแสดงให้เห็นว่า <math>\lambda_2(P_n) = \Theta(\frac{1}{n^2})</math> โดยประกอบด้วยสองขั้นตอน |
− | :<math>\lambda_2(P_n) = \Theta(\frac{1}{n^2})</math>
| + | |
| + | 1.<math>\lambda_2(P_n) = O(\frac{1}{n^2})</math> |
| + | {{เริ่มบทพิสูจน์}} |
| + | To be proved... |
| + | {{จบบทพิสูจน์}} |
| + | 2.<math>\lambda_2(P_n) = \Omega(\frac{1}{n^2})</math> |
| + | {{เริ่มบทพิสูจน์}} |
| + | To be proved... |
| + | {{จบบทพิสูจน์}} |
| + | |
| + | {{กล่องทฤษฎีบท|<math>\forall\epsilon\gt 0</math> จะมี ค่า d > 0 ที่ถ้า n มีขนาดมากพอ จะมี d-regular graph <math>G_n</math> ที่ <math>(1+\epsilon)G_n \succeq K_n \succeq \frac{G_n}{(1+\epsilon)}</math>}} |
| + | |
| TO BE CONTINUED | | TO BE CONTINUED |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 04:27, 25 กุมภาพันธ์ 2558
Spectral Graph Theory
|
- บทนำและทบทวนพีชคณิตเชิงเส้น (ณัฐวุฒิ)
- คุณสมบัติของ Eigenvalue ต่อกราฟ (ธานี,ณัฐวุฒิ)
- คุณสมบัติของ Eigenvalue ต่อกราฟ[2] (ภัทร)
- คุณสมบัติของ Eigenvalue ลำดับที่สองบนกราฟต่างๆ (ธานี)
- Cheeger Inequality (ศุภชวาล)
- การทดลอง Cheeger Inequality และ Effective Resistance (ธานี)
- Random Walks และ Psuedo Random Generator (ศุภชวาล)
- Psuedo Random Generator[2] (ภัทร)
- Coding Theory และ Expander code (ธานี)
- Expander graph from Linear coding (ภัทร)
- Chebyshev polynomial (ศุภชวาล)
- Preconditioning (ธานี)
|
แก้ไขกล่องนี้ • แก้ไขสารบัญ
|
บันทึกคำบรรยายวิชา Spectral graph theory นี้ เป็นบันทึกที่นิสิตเขียนขึ้น เนื้อหาโดยมากยังไม่ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียด การนำไปใช้ควรระมัดระวัง
ในสัปดาห์นี้ เราได้พูดถึง Courant–Fischer Theorem
Courant–Fischer Theorem
ให้ A เป็น symmetric matrix ขนาด n ที่มี eigen value
(สังเกตว่าเรียงสลับด้านกับ
ในเลคเชอร์อื่นๆ)
เราจะได้ว่า

To be proved...
Graphic Inequality
เป็นการเปรียบเทียบกราฟโดยให้ sense ของการ "มากกว่า" "น้อยกว่า" เหมือนการเปรียบเทียบจำนวนจริง
ให้ A เป็น matrix ใดๆ เราเขียนแทนว่า A เป็น positive semi-definite ด้วย
โดยนิยามดังนี้

และสำหรับ matrix A,B ใดๆ เราเขียน
แทน
โดยความสัมพันธ์นี้มีคุณสมบัติถ่ายทอด คือ

ทำนองเดียวกัน สำหรับกราฟ G,H ใดๆ เราเขียน
แทน
สังเกตว่า ถ้า H เป็น subgraph ของ G จะได้ว่า
และสำหรับจำนวนจริง c ใดๆเราเขียนแทน
หมายถึง
จากนิยามข้างต้น เราจะได้คุณสมบัติว่า (ในเนื้อหาครั้งนี้ไม่มีการพิสูจน์ทฤษฎีบทนี้)
Path Inequality
ให้กราฟขนาด n โหนด
แทนกราฟที่มีเส้นเชื่อมเดียว (1,n) และกราฟที่มีเส้นเชื่อม n-1 เส้น
ตามลำดับ
To be proved...
และเราจะแสดงให้เห็นว่า
โดยประกอบด้วยสองขั้นตอน
1.
To be proved...
2.
To be proved...
จะมี ค่า d > 0 ที่ถ้า n มีขนาดมากพอ จะมี d-regular graph
ที่
TO BE CONTINUED